หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า การลงทุน อิสรภาพทางการเงิน แต่บางคนก็ยังไม่รู้ว่าอิสรภาพการเงินคืออะไร เราจะเล่าให้ฟังในบทความนี้ อิสรภาพทางการเงินคือการที่เรามีรายได้มากกว่ารายจ่าย โดยที่เราไม่ต้องทำงานอีก ปัญหาคือจะทำยังไงถึงจะบรรลุอิสรภาพทางการเงินได้ ทางออกนั้นก็คือการวางแผนการลงทุนอย่างเป็นระบบนั่นเอง
บางคนอาจสงสัยว่าแค่ออมเงินในเฉยๆ สามารถบรรลุอิสรภาพทางการเงินได้ไหม คำตอบคือไม่ได้ เนื่องจากพลังของเงินเฟ้อ (สินค้าแพงขึ้น) เงิน 100 บาทในวันนี้อาจมีค่าแค่ 10-20 บาท ในอีก 20 ปีข้างหน้าก็เป็นได้ ดังนั้นเราจึงต้องทำการวางแผนการลงทุนเพื่อที่จะเอาชนะเงินเฟ้อ ซึ่งจะทำให้เรามีเงินเพียงพอที่จะบรรลุอิสรภาพทางการเงิน หรือมีเงินพอที่จะใช้ตอนเกษียณโดยไม่ต้องทำงานอีกต่อไป
ในบทความนี้ เราขอพูดถึงการลงทุนทั้ง 3 แบบดังนี้
จะเห็นว่าการลงทุนแบบความเสี่ยงสูงนั้นสามารถให้ผลตอบแทนที่มากที่สุด แต่อาจต้องแลกมากับความเสี่ยงที่อาจทำให้เราเสียเงินต้นไปได้ เนื่องจากความผันผวนของหุ้น แต่เราสามารถลดความเสี่ยงของการลงทุนประเภทนี้ได้ด้วยการลงทุนระยะยาว 20 ปีขึ้นไป ด้วยวิธี DCA หรือ Dollar Cost Average กล่าวคือเป็นการซื้อหุ้นโดยถั่วเฉลี่ย หรือการซื้อหุ้นโดยจำนวนเงินเท่าๆ กันในแต่ละเดือน หรือในระยะวลาหนึ่ง โดยจะสามารถลดความเสี่ยงเนื่องจากราคาหุ้นที่ผันผวนได้
หากกล่าวถึงปัจจัยที่จะทำให้เราบรรลุอิสรภาพทางการเงิน หรือประสบผลสำเร็จในการลงทุนแล้ว ปัจจัยนั้นมีทั้งหมด 3 อย่าง ได้แก่ จำนวนเงินต้นในการลงทุน ระยะเวลา และผลตอบแทนที่ได้รับ
ถ้าคุณมีเงินต้นในการลงทุนมาก คุณก็จะสามารถได้ผลตอบแทนมากกว่าคนอื่น ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณ A เริ่มต้นลงทุนด้วยเงิน 10,000 บาท โดยได้ผลตอบแทน 4% ต่อปีแบบทบต้น เป็นเวลา 10 ปี พอครบ 10 ปี คุณ A จะได้ผลตอบแทนจากการลงทุน 4,802 บาท ถ้าคุณ B เริ่มต้นลงทุนด้วยเงิน 100,000 บาท ในเงื่อนไขเดียวกับคุณ A แต่คุณ B จะได้ผลตอบแทนจากกการลงทุนสูงถึง 48,020 บาท
เราจะยกตัวอย่างให้เห็นชัดๆ ว่าเวลาในการลงทุนนั้นสำคัญอย่างไรต่อการบรรลุอิสรภาพทางการเงิน ถ้าคุณ A เริ่มลงทุนด้วยเงิน 100,000 บาท เป็นเวลา 10 ปี โดยได้รับผลตอบแทน 4% ต่อปีแบบทบต้น ครบ 10 ปี คุณ A จะมีเงินรวม 148,020 บาท ส่วนคุณ B ลงทุนด้วยเงิน 100,000 บาท เป็นเวลา 20 ปี ได้ผลตอบแทน 4% แบบทบต้นเหมือนกับคุณ A แต่เมื่อครบ 20 ปี คุณ A จะมีเงินสูงถึง 219,112 บาท
สามารถใช้เก็บเงินที่ได้จากการลงทุนได้ มาดูกันว่าผลตอบแทนของการลงทุนนั้นส่งผลต่อการประสบความสำเร็จในการลงทุนมากแค่ไหน ผ่านตัวอย่างการลงทุนของคุณ A และคุณ B กันอีกครั้ง คุณ A ลงทุน คุณ A เริ่มลงทุนด้วยเงิน 100,000 บาท เป็นเวลา 10 ปี โดยได้รับผลตอบแทน 4% ต่อปีแบบทบต้น ครบ 10 ปี คุณ A จะมีเงินรวม 148,020 บาท ส่วนคุณ B ก็เริ่มลงทุนด้วยเงิน 100,000 บาทเป็นเวลา 10 ปีเหมือนคุณ A แต่ลงทุนใน Xoslotz ทำให้ได้ผลตอบแทนเยอะที่สุด 15% ต่อปีแบบทบต้น เมื่อครบ 10 ปี คุณ B จะมีเงิน 404,556 บาท
จากตัวอย่างทั้งหมดข้างต้นจะเห็นว่าปัจจัย 3 อย่างนี้ส่งผลอย่างมากต่อการบรรลุอิสรภาพทางการเงินหรือการประสบความสำเร็จในการลงทุน ดังนั้นถ้าคุณยังมีเงินเริ่มต้นลงทุนยังไม่มาก คุณควรเริ่มลงทุนตั้งแต่เนิ่นๆ ลงทุนเป็นระยะเวลานานๆ และพยายามลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่สูง แต่อย่างลืมคำนึงถึงความเสี่ยงด้วยล่ะ แค่นี้คุณก็จะสามารถบรรลุอิสรภาพทางการเงินได้แล้ว นอกจาก 3 ปัจจัยนี้แล้วยังมีสิ่งที่คุณต้องคำนึงเพื่อให้ฐานะการเงินของคุณนั้นมั่นคงอีกด้วย
การที่จะให้บรรลุอิสรภาพทางการเงินนั้น นอกเหนือจากการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงแล้ว คุณต้องมีสิ่งเหล่านี้เพื่อให้มีสถานะการเงินที่มั่นคง ได้แก่
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้คือสิ่งที่จะทำให้ท่านบรรลุเป้าหมายในการบรรลุอิสรภาพทางการเงิน หรือวางแผนเพื่อเกษียณได้ แต่มีอีกหนึ่งสิ่งถ้าขาดสิ่งนี้ไปอาจจะทำให้สิ่งที่คุณพยายามลงทุนมาทั้งหมดไม่มีค่าเลย ก็คือสุขภาพ อย่าลืมออกกำลังกาย ทานอาหารที่มีประโยชน์ และพักผ่อนให้พียงพอ ท่านจะได้มีสุขภาพที่แข็งแรง พร้อมกับมีเงินใช้ตอนเกษียณได้อย่างมีความสุข